มะเร็งเป็นได้ ก็หายได้

หลังจากเป็นมะเร็ง ร่างกายจะผ่ายผอมอย่างรวดเร็ว ท้องเสียเป็นประจำ การดูดซึมอาหารไม่ดี ไม่เจริญอาหาร  แทบจะไม่กินอะไร ทำให้สูญเสียเกลือแร่ น้ำ และสารอาหารอย่างรวดเร็ว ถ้าผู้ป่วยมีอาการอาเจียนหรือท้องเสียก็จะยิ่งสูญเสียสารเหล่านี้มาก

ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงต้องบำรุงร่างกาย ด้วยวิธีกินคราวละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ โดยการเพิ่มหรือลดพลังงาน  7,700 กิโลแคลอรี่ จะเท่ากับน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบตามต้องการ กำลังใจจากคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วย ยอมกินอาหารได้อย่างราบรื่น

เพราะเซอร์นิตินให้สารอาหารที่ครบถ้วนกว่าอาหารเสริมตัวอื่น ซึ่งร่างกายเราต้องการโปรตีนและกรดอมิโนในทุกๆ วัน 

อนุมูลอิสระ เป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง ความแก่ และโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน

เมื่อเรากินอาหาร จะเกิดกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย หรือกระบวนการออกซิเดชั่น และเกิดพลังงานเพื่อการดำรงชีวิต หมายความว่า กากที่เหลือจากกระบวนการออกซิเดชั่น ก็คืออนุมูลอิสระนั้นเอง

พลังปราณ พลังชีวิต พิชิตโรคร้าย

สิ่งสกปรกหรือสารชีวเคมี ที่แปลกปลอมอยู่ในร่างกายคนเรานั้น มีทางระบาย หรือขับออกจากอวัยวะของคนเราได้ประมาณ 5-6 ทางได้แก่ ปัสสาวะ อุจจาระ ลมหายใจออก เหงื่อ น้ำตา น้ำมูก เสลด

แต่ที่สามารถทั้งฟอกและขับถ่ายออกได้ตลอดเวลา คือช่วงการหายใจเข้าและออก เพราะเราต้องหายใจเข้าและหายใจออกทุกวินาทีอยู่แล้ว รองลงมาจึงเป็นปัสสาวะประมาณ 6-8 ครั้งต่อวัน อุจจาระประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน น้ำตา , น้ำมูก , เสลด และเหงื่อ นานๆ ครั้ง

ออร่าบำบัดกับอาหาร 7 สี

อาหารของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่มีออร่าอยู่ในตัวเอง เช่น มะเขือเทศมีสีแดง แครอทมีสีส้ม กล้วยมีสีเหลือง มะนาวมีสีเขียว อัญชันมีสีฟ้า บลูเบอรี่ หรือกะหล่ำม่วง มีสีม่วงเป็นต้น

การรับประทานผักผลไม้แต่ละสีเป็นประจำ ตามสีของออร่าของอวัยวะในแต่ละส่วน จะช่วยเสริมออร่าให้เข้าประจำอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ดีขึ้น

ออร่าพลังชีวิต

ออร่าทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกนี้ ล้วนแล้วแต่มีเหตุมาจากแสงอาทิตย์ที่แผ่รังสีมาสู่โลก เป็นทั้งคลื่นความร้อนคลื่นไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็ก รวมกันเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จึงแปลงออกมาเป็น แสง สี เสียง และก็แสงสีออร่า สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตทั้งหลายบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่ได้รับพลังแสงอาทิตย์นี้ทั้งนั้น

เซลล์มะเร็งเกิดจากเซลล์ในร่างกายของเรานี่เอง

ถ้าร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุล เซลล์ในร่างกายก็ทำงานตามที่ถูกกำหนดมา และเสื่อมไปตามเวลา แต่ถ้าในร่างกายมีแต่สารอักเสบ สารพิษ เป็นกรด มีอนุมูลอิสระมากออกซิเจนต่ำ การไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองไม่ดี เซลล์ในร่างกายบางกลุ่มก็อยู่ไม่ได้ บางตัวก็ต้องกลายพันธุ์เป็นเซลล์สายพันธุ์ใหม่เพื่อความอยู่รอด และสามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้เรื่อยๆ ขณะเดียวกันเชื้อโรคบางตัวก็สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น ๆ เช่นกัน

สภาวะขาบวมน้ำในผู้ป่วยมะเร็งตับ เกิดขึ้นเนื่องจากตับไม่สามารถผลิตโปรตีนอัลบูมีนได้เพียงพอ

หรือปฏิกิริยาตอบสนองต่อร่างกาย ปรับสมดุลในร่างกาย ซึ่งอาจมีอาการตอบสนองกับบางคน อาจเข้าใจว่าเป็นผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์ แต่ความจริงเป็นผลการตอบสนองของร่างกาย ที่จะนำไปสู่ความสมดุลและสุขภาพที่ดีฒิพฬ

กรดซิตริกซึ่งมีอยู่มากในมะนาว มีความสำคัญต่อการรักษาสมดุลของโซเดียมกับโพแทสเซียม กรดซิตริกจะเผาผลาญสารจำนวนมาก แล้วกลับคืนมาเป็นกรดซิตริกอีก หมุนเวียนเช่นนี้ จึงเรียกกระบวนการนี้ว่า “วัฏจักรกรดซิตริก”

ดื่มน้ำผักผลไม้สดปริมาณมาก คืออีกหนึ่งหัวใจของการรักษาโรคมะเร็งด้วยโภชนบำบัด
เหตุที่การรักษาโรคมะเร็งด้วยโภชนบำบัดต้องดื่มน้ำผักผลไม้ปริมาณมากคือ

1. ในผักผลไม้สดอุดมด้วยโพแทสเซียมการกินผักผลไม้ทุกวันจึงสำคัญอย่างยิ่ง

2. ผักผลไม้มีฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นโพลีแซคคาไรด์ ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี คลอโรฟิลล์ กรดโฟลิค และซัลไฟล์ ที่จัดว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ผักผลไม้มีสารมากมาย ที่ช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวก่อมะเร็ง สารเหล่านี้เรียกรวมกันว่าพฤกษเคมี หลายปีมานี้สารต่างๆ เหล่านี้ ได้รับความสนใจอย่างมาก และกลายเป็นสารที่ขาดไม่ได้ ในการต้านมะเร็ง และโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน

3. การกินผักผลไม้ปริมาณมาก ก็เพื่อเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญผักสดและผลไม้ยังมีเอนไซม์ Active ต่างๆ จำนวนมาก เอนไซม์เหล่านี้ช่วยในการฟื้นฟูกำลังวังชา เพิ่มความสามารถในการย่อยอาหารและช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน